Fast And Furious

Fast & Furious – เร็ว…แรงทะลุนรก

Fast & Furious เป็นภาพยนตร์แนวแอ็กชันที่เริ่มต้นจากเรื่องราวของการแข่งรถใต้ดิน และค่อย ๆ พัฒนาเป็นภารกิจระดับโลกที่เกี่ยวข้องกับการปล้น การล้างแค้น และการกู้โลก ซีรีส์นี้เน้นไปที่ธีม “ครอบครัว” การเสียสละ และมิตรภาพระหว่างตัวละคร โดยมีโดมินิค ทอเร็ตโต้ (Vin Diesel) เป็นศูนย์กลางตั้งแต่ภาคแรกถึงภาคล่าสุด
การดำเนินเรื่องมีการเปลี่ยนโทนจาก “รถซิ่ง” เป็น “สายลับแอ็กชัน” พร้อมการกลับมาของตัวละครเดิมหลายคน และการเสริมทัพด้วยดาราชั้นนำระดับโลกในแต่ละภาค

1. The Fast and the Furious (2001)

เนื้อหา: ไบรอัน โอคอนเนอร์ ตำรวจนอกเครื่องแบบ ได้รับภารกิจให้แฝงตัวในวงการแข่งรถผิดกฎหมายในลอสแองเจลิส เขาพบกับโดมินิค ทอเร็ตโต้ หัวหน้าแก๊งที่เป็นทั้งนักแข่งและหัวหน้าแก๊งโจรปล้นรถสินค้า
ไฮไลต์: ความขัดแย้งในตัวไบรอันระหว่างหน้าที่ตำรวจกับมิตรภาพที่มีต่อโดมินิค และความรักที่ก่อตัวกับมีอา น้องสาวของดอม

2. 2 Fast 2 Furious (2003)

เนื้อหา: หลังจากเหตุการณ์ภาคแรก ไบรอันหนีจากแอลเอ มาที่ไมอามีและถูก FBI บีบบังคับให้ช่วยจับกุมนักค้ายา เขาเลือกชวนเพื่อนเก่า โรมัน เพียร์ซ มาร่วมภารกิจ
ไฮไลต์: ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนเก่าที่ต้องฟื้นฟูความเชื่อใจ พร้อมการแข่งรถที่เต็มไปด้วยอันตรายและการลอบสืบข้อมูลจากองค์กรอาชญากรรม

3. Tokyo Drift (2006)

เนื้อหา: ฌอน บอสเวลล์ นักเรียนไฮสคูลผู้มีปัญหากับกฎหมาย ถูกส่งไปอยู่กับพ่อที่ญี่ปุ่น ที่นั่นเขาได้เข้าสู่วงการดริฟต์ พบกับฮาน และขัดแย้งกับดีเค นักแข่งที่เป็นหลานของยากูซ่า
ไฮไลต์: วัฒนธรรมการแข่งรถดริฟต์ในญี่ปุ่น, การพัฒนาอัตลักษณ์ของฌอน และบทบาทของฮานซึ่งจะมีความสำคัญในภาคต่อ ๆ ไป

4. Fast & Furious (2009)

เนื้อหา: ดอมกลับมาหลังจากเลิกกบดาน เมื่อเลตตี้ถูกฆ่าในการแทรกซึมแก๊งค้ายา ดอมจึงต้องหาคนรับผิด ไบรอันที่ตอนนี้เป็น FBI ก็ต้องตามสืบแก๊งเดียวกัน ทั้งสองร่วมมือกันอีกครั้ง
ไฮไลต์: การกลับมาของตัวละครหลัก, ความลับที่ถูกเปิดเผยเกี่ยวกับเลตตี้ และฉากแข่งรถในอุโมงค์ใต้ดินระหว่างประเทศ

5. Fast Five (2011)

เนื้อหา: ดอม ไบรอัน และมีอาหลบหนีไปบราซิล ที่นั่นพวกเขาวางแผนปล้นเงิน 100 ล้านจากเจ้าพ่อท้องถิ่น โดยรวมทีมเก่ากลับมาเพื่อทำภารกิจสุดท้าทาย พร้อมกับการตามล่าจากลุค ฮอบส์
ไฮไลต์: จุดเริ่มต้นของ “ทีมแฟมิลี”, ฉากปล้นตู้นิรภัยในริโอที่กลายเป็นไอคอน และการเปลี่ยนโทนจากหนังแข่งรถเป็นแอ็กชันปล้นแบบเต็มตัว

6. Fast & Furious 6 (2013)

เนื้อหา: ฮอบส์ตามหาทีมของดอมเพื่อล้มแก๊งของโอเว่น ชอว์ ซึ่งมีเลตตี้ร่วมทีมอยู่ด้วย ดอมต้องเผชิญหน้ากับอดีตของเขาอีกครั้ง และพยายามดึงเลตตี้กลับมา
ไฮไลต์: การกลับมาของเลตตี้, ฉากรบในลอนดอน และการไล่ล่าเครื่องบินที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์หนังแอ็กชัน

7. Furious 7 (2015)

เนื้อหา: เด็คการ์ด ชอว์ พี่ชายของโอเว่น ออกล้างแค้นต่อทีมดอม การล่าล้างแค้นกลับกลายเป็นการปกป้องโลก เมื่อทีมต้องร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อหยุดยั้งอาชญากรระดับโลก
ไฮไลต์: ฉากรถโดดตึกในดูไบ, การอำลาไบรอัน (พอล วอล์กเกอร์) อย่างสุดซึ้ง และเพลง “See You Again” ที่กลายเป็นตำนาน

8. The Fate of the Furious (2017)

เนื้อหา: ดอมถูกไซเฟอร์ แฮ็กเกอร์ระดับโลกแบล็กเมล์ให้ทรยศทีม เพราะเธอจับตัวลูกและอดีตคนรักของเขาไว้ ทีมต้องหยุดแผนทำลายโลกของไซเฟอร์โดยไม่มีดอม
ไฮไลต์: ความลึกทางอารมณ์ของดอม, ความซับซ้อนในโครงเรื่อง และฉากยึดเรือดำน้ำในน้ำแข็งไซบีเรีย

9. F9 (2021)

เนื้อหา: ยาคอบ ทอเร็ตโต้ น้องชายที่หายไปของดอมปรากฏตัวในฐานะศัตรู โดยมีไซเฟอร์อยู่เบื้องหลังอีกครั้ง ดอมและทีมต้องป้องกันระบบดาวเทียมลับที่จะครองโลก
ไฮไลต์: การเปิดเผยอดีตครอบครัวของดอม, ฉากรถพุ่งขึ้นอวกาศ และการกลับมาของฮาน

10. Fast X (2023)

เนื้อหา: ดอมเผชิญศัตรูคนใหม่ – ดันเต้ ลูกชายของเจ้าพ่อเฮอร์นัน เรเยส (จากภาค 5) ที่ตามล้างแค้นอย่างแยบยล ดันเต้วางแผนให้ดอมสูญเสียทุกอย่างโดยเริ่มจาก “ครอบครัว”
ไฮไลต์: การเริ่มต้นของบทสรุป 2 ตอนสุดท้ายของแฟรนไชส์ และการที่ “ศัตรู” ใหม่มีแรงจูงใจส่วนตัวที่อันตรายไม่แพ้ใคร

ภาคแยก: Hobbs & Shaw (2019)

เนื้อหา: ฮอบส์และเด็คการ์ด ชอว์ ต้องร่วมมือกันแม้ไม่ลงรอย เพื่อหยุดบริกซ์ตัน อดีตสายลับที่กลายเป็นมนุษย์ดัดแปลงด้วยเทคโนโลยี
ไฮไลต์: แอ็กชันสไตล์คู่หู-กัดกัน, ฉากบู๊แบบไซไฟ และการเปิดจักรวาลใหม่ของ Fast