Peaky Blinders

8.8/10
HD
ซับไทย
Peaky Blinders Season 6 (2022) EP.1-6 (จบ)
8.2/10
HD
ซับไทย
Peaky Blinders Season 5 (2019) EP.1-6 (จบ)
9.4/10
HD
ซับไทย
Peaky Blinders Season 4 (2017) EP.1-6 (จบ)
8.1/10
HD
ซับไทย
Peaky Blinders Season 3 (2016) EP.1-6 (จบ)
8.4/10
HD
ซับไทย
Peaky Blinders Season 2 (2014) EP.1-6 (จบ)
8/10
HD
ซับไทย
Peaky Blinders Season 1 (2013) EP.1-6 (จบ)

ดูหนังเรื่อง Peaky Blinders – เจาะลึกซีรีส์อาชญากรรมระดับตำนาน ที่คุณไม่ควรพลาด

Peaky Blinders คืออะไร ทำไมทุกคนต้องดู?

หากคุณเป็นคอซีรีส์ที่หลงใหลในโลกของอาชญากรรม ประวัติศาสตร์ และการเล่าเรื่องแบบเข้มข้น ซับซ้อน พร้อมบรรยากาศมืดหม่นสุดเท่ Peaky Blinders คือหนึ่งในซีรีส์ที่คุณ “ต้องดู” ไม่ใช่เพราะกระแส ไม่ใช่เพราะนักแสดงเท่านั้น แต่เพราะคุณภาพในทุกด้านของเรื่องนี้ที่เกินความคาดหวัง

Peaky Blinders เป็นซีรีส์แนวอาชญากรรม-ดราม่า สัญชาติอังกฤษที่ออกฉายครั้งแรกในปี 2013 ผ่านช่อง BBC Two และต่อมาได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายจนถูกนำมาฉายทั่วโลกผ่าน Netflix กลายเป็นซีรีส์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเล่าเรื่องอย่างมีสไตล์ ตัวละครลุ่มลึก และฉากหลังยุคหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในเมือง เบอร์มิงแฮม (Birmingham)

จุดแข็งของ Peaky Blinders ไม่ได้มีแค่ “กลุ่มนักเลงกับหมวกมีใบมีด” อย่างที่ชื่อเรื่องบอกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบทพูดที่คมคาย ภาพสวย เพลงประกอบเท่ๆ และการแสดงระดับท็อปคลาสจาก Cillian Murphy ผู้รับบทเป็น “ทอมมี่ เชลบี้ (Tommy Shelby)” หัวหน้าแก๊งที่ทั้งโหดและเฉียบขาด

บทความนี้จะพาคุณดิ่งลึกสู่โลกของ Peaky Blinders แบบเจาะทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น:

  • เรื่องย่อแต่ละซีซั่น

  • ตัวละครสำคัญ

  • ฉากเด่นที่ลืมไม่ลง

  • เบื้องหลังการถ่ายทำ

  • แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง

  • และแน่นอน…ช่องทาง ดู Peaky Blinders ออนไลน์ฟรี แบบถูกลิขสิทธิ์


ประวัติความเป็นมาของ Peaky Blinders

ก่อนจะเข้าสู่เนื้อเรื่อง เรามาทำความรู้จักกับที่มาที่ไปของซีรีส์นี้กันก่อน

Peaky Blinders เป็นผลงานการเขียนบทและสร้างสรรค์โดย Steven Knight ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากแก๊งอาชญากรรมจริงในเบอร์มิงแฮมช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยชื่อ Peaky Blinders มาจากตำนานของกลุ่มนักเลงที่ใส่หมวกแก๊ปฝังใบมีดไว้ที่ปีกหมวก เพื่อใช้เป็นอาวุธเฉพาะตัวในการโจมตีศัตรู

แม้ซีรีส์จะมีโครงสร้างจากประวัติศาสตร์จริง แต่เนื้อเรื่องส่วนใหญ่ในซีรีส์ถือเป็นเรื่องแต่ง ที่ผสานทั้งความดราม่า การเมือง เศรษฐกิจ ความรัก และการทรยศหักหลังในแบบที่ทำให้คุณไม่อาจละสายตาได้เลย


เนื้อเรื่องย่อ: Peaky Blinders ทั้ง 6 ซีซั่น

🎬 Season 1 – จุดเริ่มต้นของอำนาจ (2013)

ปี: 1919
เมืองเบอร์มิงแฮมหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ประเทศอังกฤษยังอยู่ในสภาพแหลกสลาย กลุ่มอาชญากรรมต่างเรืองอำนาจในพื้นที่ท้องถิ่น หนึ่งในนั้นคือ “Peaky Blinders” แก๊งของครอบครัวเชลบี้ที่กำลังขยายอิทธิพลอย่างเงียบๆ

“ทอมมี่ เชลบี้” กลับมาจากสงครามพร้อมจิตใจที่เปลี่ยนไป เขาเริ่มผลักดันครอบครัวเข้าสู่เส้นทางที่เหนือกว่าแค่การพนันผิดกฎหมาย คือการสร้างอาณาจักรธุรกิจอันแข็งแกร่ง และยิ่งใหญ่กว่าทุกแก๊งในเบอร์มิงแฮม

ขณะเดียวกัน เขาต้องเผชิญหน้ากับ สารวัตรเชสเตอร์ แคมป์เบล (Inspector Campbell) ที่รัฐบาลส่งมาเพื่อปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมในเมือง และกับผู้หญิงคนใหม่ “เกรซ” ที่เข้ามาใกล้ชิดโดยมีจุดประสงค์บางอย่างซ่อนอยู่

🎬 Season 2 – ขยายอำนาจสู่ลอนดอน (2014)

ซีซั่นนี้เนื้อเรื่องพุ่งไปที่การขยายตัวของแก๊ง Peaky Blinders เข้าสู่ ลอนดอน และการต่อสู้กับกลุ่มอิทธิพลเก่าอย่าง Sabini และแก๊งอิตาลี ซีซั่นนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้นทั้งด้านธุรกิจ การพนัน การลอบฆ่า และเกมการเมืองใต้ดิน

จุดเด่น: ซีซั่นนี้เราจะได้เห็นการเพิ่มบทบาทของตัวละครอย่าง “โพลลี่” ผู้เป็นเสาหลักของครอบครัว และการกลับมาของ “เกรซ” พร้อมความจริงที่เปิดเผย

🎬 Season 3 – เกมสายลับและองค์กรนานาชาติ (2016)

ในซีซั่นนี้ ทอมมี่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับข้อตกลงทางการเมืองที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมพบกับกลุ่มองค์กรลับจากรัสเซียและขุนนางอังกฤษ ซีซั่นนี้เนื้อหาหนักขึ้น และแสดงให้เห็นว่าทอมมี่ไม่ใช่แค่ “นักเลงท้องถิ่น” แต่กลายเป็นผู้เล่นในเกมระดับโลก

ตอนจบของซีซั่นนี้เป็นหนึ่งในฉากที่สะเทือนใจที่สุด ของซีรีส์

🎬 Season 4 – ศัตรูเลือดเย็นจากนิวยอร์ก (2017)

ทอมมี่และครอบครัวถูกหมายหัวโดย “แก๊งมาเฟียจากอเมริกา” ที่นำโดย ลูกชายของ Luca Changretta ผู้อาฆาตและพร้อมล้างแค้นอย่างเลือดเย็น

เรื่องราวเข้มข้นถึงขีดสุด มีฉากยิงปะทะที่ถือว่าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม การวางกลยุทธ์ของทอมมี่ในซีซั่นนี้ถือเป็นตัวอย่างของ “เกมการต่อสู้แบบหัวใจเท่ากัน”

Cillian Murphy และ Adrien Brody เผชิญหน้ากันได้อย่างมีพลังมาก

🎬 Season 5 – การเมืองกับระเบิดเวลา (2019)

Peaky Blinders เปลี่ยนสนามรบจากถนนสู่วงการเมือง ทอมมี่เข้าสู่สภาในฐานะสมาชิกสภาผู้แทน (MP) และต้องรับมือกับการเกิดขึ้นของ “ฟาสซิสต์” ในอังกฤษ โดยมี “ออสวอลด์ มอสลีย์” เป็นผู้นำลัทธิ

เกมการเมืองในซีซั่นนี้ซับซ้อนและสะเทือนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะฉากสุดท้ายของซีซั่นที่ทำให้แฟน ๆ ช็อกและอยากดูซีซั่นต่อไปทันที

🎬 Season 6 – จุดจบของเส้นทาง

ซีซั่นสุดท้ายของ Peaky Blinders เน้นที่จิตใจและภายในของทอมมี่ เขาต้องเผชิญหน้ากับความว่างเปล่า ชะตาชีวิตของครอบครัว และคำถามว่า “ทุกอย่างที่เขาทำมานั้นคุ้มค่าหรือไม่”

ในซีซั่นนี้ เราจะได้เห็นการวางแผนสุดท้ายของทอมมี่กับศัตรูที่อันตรายที่สุด — ตัวเขาเอง

ตัวละครหลักและการวิเคราะห์ใน Peaky Blinders

Peaky Blinders มีเสน่ห์มากจากการสร้างตัวละครที่มีมิติซับซ้อนและน่าสนใจ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ซีรีส์นี้โดดเด่นและตราตรึงใจผู้ชม

1. ทอมมี่ เชลบี้ (Tommy Shelby)

ทอมมี่ เชลบี้ คือหัวหน้าแก๊ง Peaky Blinders ผู้มีความฉลาดหลักแหลมและจิตใจที่เย็นชาแต่แฝงไปด้วยความซับซ้อนทางอารมณ์

  • บทบาท: ผู้นำ, นักวางกลยุทธ์, นักธุรกิจ และนักสู้ที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว

  • จุดเด่น:

    • ทักษะการวางแผนและความเฉียบแหลมเหนือใคร

    • อดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกที่ต้องรับมือกับ PTSD

    • การต่อสู้ภายในระหว่างความดีและความชั่วในตัวเอง

  • การแสดง: Cillian Murphy ถ่ายทอดบทนี้ออกมาอย่างยอดเยี่ยม ทั้งในแง่ของความโหดร้ายและความเปราะบางในเวลาเดียวกัน

2. โพลลี่ เกรย์ (Polly Gray)

โพลลี่ เป็นป้าและมือขวาของทอมมี่ เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและมีอำนาจ

  • บทบาท: ผู้ควบคุมด้านการเงินและที่ปรึกษาของแก๊ง

  • จุดเด่น:

    • ความรักต่อครอบครัวสูงมาก

    • ความสามารถในการต่อรองและจัดการสถานการณ์ต่าง ๆ

    • เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นแม่และผู้หญิงที่ไม่ยอมแพ้ในโลกที่ผู้ชายครองเมือง

  • การแสดง: Helen McCrory สร้างตัวละครที่ทรงพลังและมีเสน่ห์อย่างลึกซึ้ง

3. อาเธอร์ เชลบี้ (Arthur Shelby)

อาเธอร์ คือพี่ชายคนโตของครอบครัวเชลบี้ ผู้มีนิสัยดุร้ายแต่ภายในเต็มไปด้วยความขัดแย้ง

  • บทบาท: มือขวาทอมมี่ในสนามจริง และเป็นผู้ที่ต้องต่อสู้กับความโกรธและการติดสุรา

  • จุดเด่น:

    • ความรุนแรงที่ไม่สามารถควบคุมได้ในบางครั้ง

    • ความรักและภักดีต่อครอบครัว

    • การค้นหาตัวตนและความสงบในใจ

  • การแสดง: Paul Anderson ถ่ายทอดความซับซ้อนของอาเธอร์ได้อย่างสมจริง

4. ไมเคิล เกรย์ (Michael Gray)

ไมเคิลเป็นลูกชายของโพลลี่ที่เข้ามามีบทบาทในภายหลังในฐานะนักธุรกิจรุ่นใหม่

  • บทบาท: ผู้ช่วยทอมมี่ในด้านธุรกิจ และผู้ที่มีความทะเยอทะยาน

  • จุดเด่น:

    • ความขัดแย้งระหว่างความจงรักภักดีต่อครอบครัวกับความต้องการสร้างตัว

    • ความฉลาดและทักษะทางธุรกิจ

  • การแสดง: Finn Cole แสดงความเป็นตัวละครที่มีพัฒนาการและหลายมิติ

5. แอลฟี โซลอมอน (Alfie Solomon)

แอลฟี เป็นเจ้าพ่อมาเฟียชาวยิวที่มีบทบาทซับซ้อนทั้งเป็นพันธมิตรและศัตรูของทอมมี่

  • บทบาท: นักเลงที่มีอิทธิพลและความลึกซึ้งทางอารมณ์

  • จุดเด่น: ความชาญฉลาดและความลึกลับ

  • การแสดง: Tom Hardy สร้างตัวละครนี้ให้มีเสน่ห์และน่ากลัวในเวลาเดียวกัน


ฉากเด่นที่ไม่ควรพลาดใน Peaky Blinders

Peaky Blinders โดดเด่นด้วยฉากที่คัดสรรมาอย่างดี มีสไตล์เฉพาะตัว และสื่ออารมณ์ได้ลึกซึ้ง เราจะพูดถึงบางฉากที่แฟน ๆ จดจำได้ดี

  • ฉากเปิดตัวของทอมมี่ใน Season 1 ที่เดินเข้ามาในร้านเหล้าอย่างมั่นใจ

  • ฉากการยิงปะทะระหว่างแก๊งใน Season 4 ที่มีการวางกล้องและการตัดต่อสุดตื่นเต้น

  • ฉากดราม่าระหว่างทอมมี่กับโพลลี่ ที่แสดงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน

  • ฉากสุดท้ายของ Season 5 ที่ทอมมี่ต้องเผชิญหน้ากับจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิต


เพลงประกอบและบรรยากาศที่ช่วยเสริมความเข้มข้น

เพลงประกอบใน Peaky Blinders ถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญ โดยคัดเลือกเพลงจากศิลปินดังมากมายเช่น Nick Cave and the Bad Seeds, Arctic Monkeys, และ PJ Harvey เพลงเหล่านี้ช่วยเพิ่มบรรยากาศดาร์ก ๆ คลาสสิค และตื่นเต้นไปกับเรื่องราวได้เป็นอย่างดี


ธีมและสัญลักษณ์ใน Peaky Blinders

ซีรีส์นี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องราวแก๊งนักเลง แต่เต็มไปด้วยธีมสำคัญ เช่น

  • การต่อสู้เพื่ออำนาจและอิสรภาพ

  • ความรักและการทรยศในครอบครัว

  • การเผชิญหน้ากับอดีตและจิตใจที่แตกสลาย

  • การเมือง ความชิงไหวชิงพริบในยุคเปลี่ยนผ่าน


ช่องทางดู Peaky Blinders ออนไลน์ฟรี

สำหรับคนที่อยากดู Peaky Blinders แบบถูกลิขสิทธิ์และสะดวกที่สุด Netflix คือแพลตฟอร์มหลักที่มีครบทุกซีซั่น และมีซับไทยและพากย์ไทยให้เลือก
นอกจากนี้ควรระวังเว็บดูหนังผิดกฎหมายที่อาจเสี่ยงเรื่องไวรัสและละเมิดลิขสิทธิ์